ขนมจีบนกไทย
ถ้าอยากทำขนมจีบเอาใจคนพิเศษ นี่เลยขอนำเสนอขนมจีบนกไทย ขนมไทยโบราณที่ต้องใช้ความประณีตในการจับจีบตัวแป้ง ให้เป็นตัวนก มาพร้อมส่วนผสมไส้กุ้ง ถ้าใครทำให้นะ รักตายเลย
ส่วนผสมไส้ขนมจีบ
• กระเทียม 3 กลีบ
• รากผักชี 4-5 ราก
• พริกไทย (ปริมาณมาก-น้อยตามชอบ)
• หอมใหญ่ (ขนาดกลาง) สับละเอียด 1 หัว
• เนื้อกุ้งสับละเอียด 400-500 กรัม
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1 ช้อนชา
• ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ
• รากผักชี 4-5 ราก
• พริกไทย (ปริมาณมาก-น้อยตามชอบ)
• หอมใหญ่ (ขนาดกลาง) สับละเอียด 1 หัว
• เนื้อกุ้งสับละเอียด 400-500 กรัม
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1 ช้อนชา
• ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ
ส่วนผสมแป้งขนมจีบ
• แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
• แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
• แป้งเท้ายายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
• หัวกะทิ 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 1 ถ้วย
• สีผสมอาหารสีเหลือง, สีชมพู, สีฟ้า, สีม่วง
• แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
• แป้งเท้ายายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
• หัวกะทิ 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 1 ถ้วย
• สีผสมอาหารสีเหลือง, สีชมพู, สีฟ้า, สีม่วง
วิธีทำไส้ขนมจีบ
1. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
2. ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย พอร้อนใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงไปผัดให้หอม ใส่หอมใหญ่สับลงไปผัดจนนิ่ม ใส่เนื้อกุ้งสับลงไปผัดให้สุกเล็กน้อย
3. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ตามด้วยน้ำตาลทราย และเกลือ ผัดผสมให้เข้ากันจนเริ่มงวด
3. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ตามด้วยน้ำตาลทราย และเกลือ ผัดผสมให้เข้ากันจนเริ่มงวด
4. ใส่ถั่วลิสงคั่วบด ผัดให้เข้ากันจนแห้งจนสามารถปั้นเป็นก้อนได้ ตักใส่จาน พักทิ้งไว้จนเย็น
5. ระหว่างที่รอไส้เย็น เตรียมผักทั้งหมดให้พร้อม หั่นแครอทเป็นสามเหลี่ยมสำหรับทำเป็นปากนก และเตรียมงาดำสำหรับทำเป็นตาเอาไว้
6. พอส่วนผสมไส้เย็นแล้ว นำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดพอดีคำ เตรียมไว้
5. ระหว่างที่รอไส้เย็น เตรียมผักทั้งหมดให้พร้อม หั่นแครอทเป็นสามเหลี่ยมสำหรับทำเป็นปากนก และเตรียมงาดำสำหรับทำเป็นตาเอาไว้
6. พอส่วนผสมไส้เย็นแล้ว นำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดพอดีคำ เตรียมไว้
วิธีทำแป้งขนมจีบ
1. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งเท้ายายม่อมเข้าด้วยกันในอ่างผสม ใส่หัวกะทิลงไป นวดผสมด้วยมือ
2. เติมน้ำเปล่าลงไป ใช้มือนวดผสมจนแป้งละลายและไม่เป็นเม็ด เทกรองผ่านผ้าขาวบาง เทส่วนผสมแป้งลงกวนในกระทะทองด้วยไฟอ่อน กวนจนแป้งล่อนออกจากกระทะ
3. นำมานวดโดยโรยแป้งมันลงไปเล็กน้อยเพื่อกันติดด้วย ใช้ตัวช่วยนวดแป้งป้องกันมือพอง พอแป้งอุ่นแล้วก็ใช้มือนวดแป้งตามปกติ
4. แบ่งแป้งเป็น 4 ส่วนแล้วนวดผสมกับสีผสมอาหารทั้ง 4 สี (ผสมสีกับแป้งนิดเดียวพอ สีจะได้ออกมาแบบธรรมชาติ
5. ห่อแป้งแต่ละสีด้วยพลาสติกถนอมอาหาร (แป้งจะได้ไม่แห้ง) จากนั้นตัดแป้งแต่ละสีเป็นก้อน ๆ ขนาดให้ใหญ่กว่าไส้นิดหนึ่ง
6. ปั้นแป้งเป็นก้อนกลม ๆ แล้วขึ้นรูปให้คล้ายผลชมพู่ กดก้นให้เป็นเบ้าลึก (พอให้ใส่ไส้ได้) นำไส้ใส่ลงไปในหลุมแป้ง แล้วห่อปิดแป้งให้มิด จากนั้นทำให้รูปร่างให้เป็นนก ใส่ปากแครอท ติดตางาดำ เตรียมไว้
7. ใช้แหนบบีบเพื่อทำจีบที่ตัวขนมให้มีลักษณะคล้ายปีกนกให้สวยงาม
8. ใส่ขนมจีบลงในชุดนึ่งที่รองใบตองไว้ พรมน้ำลงไป จากนั้นปิดฝานึ่งด้วยไฟแรง นาน 5 นาที
9. เมื่อครบ 5 นาทีให้พรมน้ำอีกครั้ง จากนั้นทาน้ำมันกระเทียมเจียวให้ทั่วขนม
10. จัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักกาดหอม ผักชี และพริกชี้ฟ้าแดง
2. เติมน้ำเปล่าลงไป ใช้มือนวดผสมจนแป้งละลายและไม่เป็นเม็ด เทกรองผ่านผ้าขาวบาง เทส่วนผสมแป้งลงกวนในกระทะทองด้วยไฟอ่อน กวนจนแป้งล่อนออกจากกระทะ
3. นำมานวดโดยโรยแป้งมันลงไปเล็กน้อยเพื่อกันติดด้วย ใช้ตัวช่วยนวดแป้งป้องกันมือพอง พอแป้งอุ่นแล้วก็ใช้มือนวดแป้งตามปกติ
4. แบ่งแป้งเป็น 4 ส่วนแล้วนวดผสมกับสีผสมอาหารทั้ง 4 สี (ผสมสีกับแป้งนิดเดียวพอ สีจะได้ออกมาแบบธรรมชาติ
5. ห่อแป้งแต่ละสีด้วยพลาสติกถนอมอาหาร (แป้งจะได้ไม่แห้ง) จากนั้นตัดแป้งแต่ละสีเป็นก้อน ๆ ขนาดให้ใหญ่กว่าไส้นิดหนึ่ง
6. ปั้นแป้งเป็นก้อนกลม ๆ แล้วขึ้นรูปให้คล้ายผลชมพู่ กดก้นให้เป็นเบ้าลึก (พอให้ใส่ไส้ได้) นำไส้ใส่ลงไปในหลุมแป้ง แล้วห่อปิดแป้งให้มิด จากนั้นทำให้รูปร่างให้เป็นนก ใส่ปากแครอท ติดตางาดำ เตรียมไว้
7. ใช้แหนบบีบเพื่อทำจีบที่ตัวขนมให้มีลักษณะคล้ายปีกนกให้สวยงาม
8. ใส่ขนมจีบลงในชุดนึ่งที่รองใบตองไว้ พรมน้ำลงไป จากนั้นปิดฝานึ่งด้วยไฟแรง นาน 5 นาที
9. เมื่อครบ 5 นาทีให้พรมน้ำอีกครั้ง จากนั้นทาน้ำมันกระเทียมเจียวให้ทั่วขนม
10. จัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผักกาดหอม ผักชี และพริกชี้ฟ้าแดง
ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากลองทำขนมไทยหากินยากอย่างขนมจีบนกไทยด้วยตัวเองแล้วหละก็ แหนมก็มีวีดีโอการทำขนมบุหลันดันเมฆมาฝากเพื่อนๆด้วยละคะ.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น